วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วรรณทัศนา : ลิลิตโองการแช่งน้ำ ( ๑ )

              สวัสดีครับ  ขอต้อนรับเข้าสู่บล็อควรรณคดีไทย : มรดกแห่งภูมิปัญญา นะครับ วันนี้จะลงบทความชิ้นแรก คือ วรรณทัศนา : ลิลิตโองการแช่งน้ำ ( ๑ )  นะครับ
            วรรณคดีเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำ  เป็นวรรณคดีที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร  คาดว่าแต่งขึ้นในต้นรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือพระเจ้าอู่ทอง  ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา  ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ.๑๘๙๓  - ๑๙๑๒  แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทลิลิต คือ ร่ายกับโคลงสลับกัน  วรรณคดีเรื่องนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ อาทิ ประกาศแช่งน้ำ , โคลงแช่งน้ำ  หรือ ลิลิตโองการแช่งน้ำ เป็นต้น วัตถุประสงค์ในการแต่งวรรณคดีเรื่องนี้ก็เพื่อใช้อ่านในพระราชพิธีถือน้ำที่เรียกกันว่าพระราชพิธี พระพัท หรือ พระพิพัท
                ภายในบทความเรื่องนี้ผมจะขอนำเสนอองค์ประกอบต่างๆของวรรณคดีเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำ   โดยเรียงตามหัวข้อย่อยดังต่อไปนี้
๑.      ภูมิหลังของวรรณคดีเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำ
๒.    ผู้แต่ง
๓.     เนื้อหา
๔.     ฉันทลักษณ์
๕.     ภาษาและสำนวนโวหาร
๖.      ความคิดและความเชื่อ

โดยในครั้งนี้จะนำเสนอในส่วนของภูมิหลังและผู้แต่งก่อนนะครับ

๑.  ภูมิหลังของวรรณคดีเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำ
                ลิลิตโองการแช่งน้ำเป็นวรรณคดีที่แต่งขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือพระเจ้าอู่ทอง  ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา  เนื่องจากวรรณคดีเรื่องนี้มีการกล่าวถึงพระนามของกษัตริย์ถึง ๒ แห่ง และเป็นพระนามที่ตรงกันดังที่ปรากฏในร่าย ๒ บท ได้แก่พระนาม สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิศรราช  ซึ่งใกล้เคียงกับพระนามของพระเจ้าอู่ทองที่ปรากฏในกฎหมายตราสามดวงเมื่อกล่าวถึงกฎหมาย พีสูทดำน้ำพีสูทลุยเพลิงคือ พระบาทสมเดจ์พระเจ้ารามาธิบดีศรีสินทรบรมจักรพรรดิศรบวรธรรมิกมหาราชาธิราชเจ้า อย่างไรก็ตามพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสันนิษฐานไว้ว่า วรรณคดีเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำนี้น่าจะมีมาก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีการสืบต่อกันมาจากเมืองที่ถือไสยศาสตร์ ( ชลดา  เรืองรักษ์ลิขิต , ๒๕๔๗ , น.๑๐ ) 
                  นอกจากนั้น จิตร   ภูมิศักดิ์  ก็มีความเห็นว่า  วรรณคดีเรื่องนี้อาจมีมาก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เพราะเต็มไปด้วยสำนวนไทยโบราณ และใช้ภาษาที่เก่ากว่าภาษาที่พบในกฎหมายสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ( จิตร  ภูมิศักดิ์ , ๒๕๔๗ , น.๒๔ ๓๖ ) ซึ่งวรรณคดีเรื่องนี้น่าจะมีมาก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะจากการที่ผมได้ค้นคว้าข้อมูลด้านประวัติศาสตร์พบว่ามีประเพณีการถือน้ำสาบานตนแพร่หลายอยู่ในหมู่คนไทยก่อนหน้าสมัยพระเจ้าอู่ทองแล้ว  แต่เมื่อนำมาใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพระพัทในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ก็ไม่น่าจะคัดลอกมาทั้งหมด  โดยเชื่อว่าน่าจะมีการนำมาปรับแต่งให้เหมาะกับยุคสมัย  ซึ่งพิธีถือน้ำพระพัท หรือ พระพิพัท นี้สันนิษฐานว่าน่าจะคือ พระพัทธ์ ที่ย่อมาจากชื่อเต็มว่า พระพัทธ์ประติชญา ของขอม โดยมีความหมายว่า ผูกมัดด้วยคำสาบาน พระราชพิธีพระพัทหรือพระพิพัทของไทยนี้  ภายหลังต่อมาเรียกเพี้ยนไปเป็น พระพิพัฒน์สัตยา ด้วยไม่เข้าใจความหมายเดิม

๒.  ผู้แต่ง
          ในวรรณคดีเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำไม่มีการระบุชื่อผู้แต่งไว้  แต่เมื่อพิจารณาวัตถุประสงค์ในการแต่งที่ว่าพราหมณ์ในราชสำนักอยุธยานำลิลิตโองการแช่งน้ำอ่านในพระราชพิธีถือน้ำพระพัทธ์ หรือที่เรียกในสมัยปัจจุบันว่าถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาซึ่งกำหนดให้บรรดาข้าราชการทั้งหลายได้ดื่มน้ำสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์  จึงสันนิษฐานได้ว่าผู้แต่งเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำน่าจะเป็นพราหมณ์ที่เป็นข้าราชสำนักในรัชสมัยพระเจ้าอู่ทองนี้เอง  ซึ่งมีนักวิชาการหลายท่านสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพราหมณ์ที่มาจากประเทศอินเดีย โดยเข้ามาในตอนต้นรัชกาล แต่ รศ.ดร.ชลดา  เรืองรักษ์ลิขิต  นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีไทยสมัยอยุธยาได้สันนิษฐานว่า พราหมณ์ผู้แต่งเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำนี้น่าจะเป็นพราหมณ์ชาวไทยจากเมืองนครศรีธรรมราชที่อพยพมาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยามากกว่าจะเป็นพราหมณ์ที่มาจากอินเดีย เพราะเรื่องลิลิตโองการแช่งน้ำแต่งเป็นภาษาไทยและเมื่อนำมาอ่านในพระราชพิธีถือน้ำพระพัทธ์ก็อ่านเป็นภาษาไทย  นอกจากนี้ยังมีเนื้อความบางส่วนที่เกี่ยวกับเทพเจ้าสำคัญทั้งสามของศาสนาฮินดูที่มีใจความผิดเพี้ยนซึ่งผมจะอธิบายในส่วนต่อไป  โดยความผิดเพี้ยนดังกล่าวนั้นผิดวิสัยของพราหมณ์อินเดียที่น่าจะมีความรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าเป็นอย่างดี  โดยผมมีความเห็นสอดคล้องกับ รศ.ดร.ชลดา  กับข้อสันนิษฐานดังกล่าว และเมื่อผมไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมก็ทำให้มีข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนความเชื่อเพิ่มขึ้นว่า น่าจะมีพราหมณ์ชาวอินเดียทำหน้าที่ควบคุมการประกอบพระราชพิธีให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตรงตามแบบแผนของทางอินเดีย ( วุฒิชัย  โกศลกาญจน์  , ๒๕๓๑ , น.๓๔ )
                ในการนำเสนอครั้งต่อไป ผมจะกล่าวถึงเนื้อหา รูปแบบของลิลิตโองการแช่งน้ำที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงความคิดความเชื่อที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่องนี้  โปรดติดตามและบอกต่อด้วยนะครับ

               ปล. หากผู้ใดจะนำบทความนี้ไปใช้ประโยชน์ กรุณาอ้างถึงแหล่งที่มาด้วยนะครับ  เพราะนั่นเป็นเครื่องหมายของความสุจริตทางวิชาการและเป็นการให้เกียรติเจ้าของผลงานด้วยครับ

******************************************************
บรรณานุกรม


จิตร  ภูมิศักดิ์. ( ๒๕๔๗ ). โองการแช่งน้ำ และข้อคิดใหม่ในประวัติศาสตร์ไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา.
                    พิมพ์ครั้งที่ ๓.  กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน.
ชลดา  เรืองรักษ์ลิขิต. ( ๒๕๔๔ ). วรรณคดีอยุธยาตอนต้น : ลักษณะร่วมและอิทธิพล. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
____________.  (   ๒๕๔๗  ).  อ่านโองการแช่งน้ำ ฉบับวิเคราะห์และถอดความ. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วุฒิชัย  โกศลกาญจน์. ( ๒๕๓๑ ). การชำระวรรณกรรมเรื่องโองการแช่งน้ำ. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต
                 มหาวิทยาลัยศิลปากร. ( อัดสำเนา )
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น